ครั้งแรกในเมืองไทย กับ..ไวโอลินคอนแชร์โต
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน 14 มิ.ย. 2550
เรารับรู้กันตลอดมาว่า ดนตรีเป็นสื่อที่อาศัยการฟังเป็นสำคัญ แต่ก็มีดนตรีหลายประเภทที่อรรถรสในบทเพลงจะเพิ่มสูงขึ้นถ้าได้ทั้งตาดูและหูฟัง และ คอนแชร์โต (concerto) ก็เป็นหนึ่งในแนวเพลงนั้น
คอนแชร์โต หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่าดนตรีประชัน เป็นแนวเพลงทีคอคลาสสิกหลายคนชื่นชอบ โดยจะเป็นการประชันลีลาในบทเพลงระหว่างเครื่องดนตรีเดี่ยวซึ่งเป็นตัวเอกของการแสดง กับวงดุริยางค์ที่จะมาบรรเลงสอดรับและโต้ตอบ
เสน่ห์ของคอนแชร์โตนั้น นอกจากผู้ฟังจะได้ดื่มด่ำในสุ้มเสียงแห่งบทเพลงแล้ว ลีลาขับเคี่ยวอารมณ์ระหว่างบรรเลงประชันของศิลปินมากฝีมือก็สร้างความตื่นใจได้ไม่แพ้กัน
และอีกไม่กี่วัน แฟนเพลงคอนแชร์โตในเมืองไทย ก็จะได้ร่วมสัมผัสสุนทรีย์แห่งดนตรีกับคอนเสิร์ตสุดยิ่งใหญ่แห่งปี ไวโอลินคอนแชร์โตสังคีตมงคล
ศรวนีย์ จินายน หนึ่งในตัวตั้งตัวตีของคอนเสิร์ตเล่าให้ฟังว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์วงการดนตรีเมืองไทยกับการแสดงไวโอลินคอนแชร์โตเต็มรูปแบบ โดยเป็นเพลงเดี่ยวไวโอลินประชันกับวงออร์เคสตรา ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
“ปีนี้เป็นปีมหามงคล ทุกคนก็พยายามจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมพระเกียรติ เราเองก็เช่นกันในคอนเสิร์ตจะนำเสนอผลงานประพันธ์เพลงของ ดร.ณรงค์ฤทธิ์ ธรรมบุตร ซึ่งแต่งขึ้นเพื่องานนี้โดยเฉพาะ และเป็นไวโอลินคอนแชร์โตบทแรกของวงดนตรีคลาสสิกร่วมสมัยของไทย โดยจะเป็นเพลงที่ผสานระหว่างเพลงพื้นบ้านและออร์เคสตรา ซึ่งบทเพลงเฉลิมพระเกียรตินี้ชื่อว่าไวโอลินคอนแชร์โตสังคีตมงคลโดยได้รับเกียรติเดี่ยวไวโอลินจาก คาริน-เรกีน่า ฟลอไรย์ นักไวโอลินชื่อก้องชาวออสเตรเลียด้วย”
นอกจากเพลงที่แต่งขึ้นใหม่แล้ว ศรวนีย์บอกว่า ยังมีการอัญเชิญเพลงพระราชนิพนธ์ชุด “กินรี สวีท” มาบรรเลงถึง 5 เพลงด้วยกัน คือ “ฝัน” “แสงเดือน” “แผ่นดินของเรา” “Love in spring”และ “Oh I say” ซึ่งบรรเลงโดยวงออร์เคสตราชั้นแนวหน้าของเมืองไทยอย่าง วงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพ (BSO) โดยมี พลเรือตรี วีระพันธ์ วอกลาง เป็นผู้อำนวยเพลง ตามมาด้วยการขับร้องประสานเสียงจาก คณะเดอะเรโซแนนซ์ อีกด้วย
“จะแบ่งการแสดงเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกเป็นการอัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์มาบรรเลงและร้องประสานเสียง ส่วนช่วงหลังก็จะเป็นไวโอลินคอนแชร์โต ซึ่งระหว่างคอนเสิร์ตเราก็จะมีโฆษกมาบรรยายเล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเพื่อให้ผู้ชมทราบที่มาที่ไปของเพลง เพื่อเพิ่มอรรถรสของความสนุกให้มากขึ้นด้วย”
ส่วนผู้ประพันธ์เพลงประวัติศาสตร์ในครั้งนี้อย่าง ดร.ณรงค์ฤทธิ์ ได้เล่าถึงเนื้อหาของเพลงนี้ว่า เป็นเพลงที่ผสมผสานระหว่างดนตรีคลาสสิกตะวันตกและดนตรีไทยอย่างกลมกลืน โดยยังคงทั้งเอกลักษณ์ของดนตรีคลาสสิกไว้ และมีลีลาการบรรเลงที่แตกต่างกันทั้ง 3 กระบวนตามแบบฉบับของคอนแชร์โต
“นำสำเนียงเพลงพื้นบ้านจากหลายภาคมาแตกย่อยเพื่อให้มีกลิ่นอาย ไม่ได้ใช้ทั้งทำนอง มีการดัดแปลงลีลาทำนองแคนให้เป็นแนวสำคัญของไวโอลิน และในกระบวนที่ 2 จะมีการบรรเลงจากกลุ่มเครื่องตี ที่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกถึงบรรยากาศที่สงบของวัด”
ส่วนสาเหตุที่ว่าทำไม ดร.ณรงค์ฤทธิ์ถึงประพันธ์เพลงที่มีกลิ่มอายพื้นบ้านในดนตรีคลาสสิกนั้น ก็เป็นเพราะว่าอยากรักษาขนบแบบแผนต่างๆของดนตรีไทยไว้นั้นเอง น่าชื่นชมจริง ๆ
คอนเสิร์ตดีๆ แบบนี้จะจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคมนี้ ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บัตรราคาตั้งแต่ 400, 700, 900, 1,200 และ 1,500 บาท สนใจสอบถามได้ที่โทร.0-2262-3456 หรือwww.thaitickermaster.com ซึ่งรายได้ทั้งหมดหลังจากหักค่าใช้จ่ายจะนำขึ้นทูลเกล้าฯสมทบทุนมูลนิธิอานันทมหิดล
ใครพลาดไป เสียดายแย่
|